“ผมไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย หรืออะไรอย่างนั้น” อาเดรียน มูตู อดีตกาลตัวรุกโรมาเนียกล่าวเมื่อปี 2018
เขาเป็นตัวรุกที่ถูกมุ่งมาดว่าเป็นความปรารถนาใหม่แห่งวงการบอลโรมาเนีย ด้วยการเล่นได้ทั้งคู่เท้า ความสามารถที่เหลือร้าย แล้วก็การทำประตูที่เฉียบคม จนถึงถูก เชลซี เศรษฐีใหม่ในตอนนั้น ทุ่มเงินคว้าตัวมาร่วมทีมในปี 2003
อย่างไรก็ตาม จากนั้นไม่ถึงสองปี สิ่งกลุ่มนี้ก็เปลี่ยนเป็นอดีตกาล เมื่อมูตู ถูกจับได้ว่าเสพโคเคน ที่ทำให้เขาถูกแบนยาว 7 เดือน พร้อมถูกขับออกจากชมรม
ในตอนนั้นผู้คนจำนวนมากหยามหน้าเขาว่าเป็นพวกขี้ยา ที่เลือกเอาอนาคตของตัวเองไปทิ้ง ด้วยการหันเหไปสู่สิ่งเสพติด ทว่า ความจริงอาจจะมีอะไรมากยิ่งกว่าที่ทุกคนเห็น
ติดตามเรื่องราวของเขาถึงที่กะไว้นี่..
โรมาเนีย นับว่าเป็นหนึ่งในชาติที่พบกับความซบเซาในวงการบอลมาอย่างช้านาน เพราะหลังจากทำผลงานได้ดิบได้ดีที่สุดภายใต้การนำของ จอร์จี ฮาจี groups.google.comซูเปอร์สตาร์ของพวกเขาที่ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในบอลโลก 1994 พวกเขาก็ไม่เคยไปถึงจุดนั้นได้อีกเลย
อย่างไรก็ตาม ในตอนต้นทศวรรษที่ 2000 การมาถึงของเด็กหนุ่มนามว่า อาเดรียน มูตู ก็ทำให้คนโรมาเนียมีความหวัง เมื่อตัวรุกรายนี้มีฝีเท้าที่เด่น จากความสามารถที่สุดยอด การจบสกอร์ที่เฉียบคม แถมยังทำประตูได้ทั้งคู่เท้า
อันที่จริง มูตู เริ่มฉายแววมาตั้งแต่ยุควัยรุ่น ข้างหลังเปิดฉากสนามให้กับ Argeș Pitești ทีมเล็กๆในบ้านกำเนิด ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี แล้วก็ทำผลงานได้ดิบได้ดี จนถึงทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ในประเทศอย่าง ดินาโม บูคาเรสต์, สเตอัว บูคาเรสต์ แล้วก็ ราปิด บูคาเรสต์ ที่สุดด้านหลังเปลี่ยนเป็น ดินาโม ที่ได้ลายเซ็นเขาไปครอบครอง
แต่ว่าลีกโรมาเนียดูเหมือนจะคับไปสำหรับฝีเท้าอย่างมูตู เพราะภายหลังที่เล่นให้ดินาโมอยู่ 2 ฤดูกาล ด้วยผลงาน 29 ประตูจาก 42 นัดหมาย เขาก็โดน อินเตอร์ มิลาน ทีมดังจากอิตาลีมาสู่ขอ แล้วก็ได้ย้ายไปเล่นในเซเรียอาในฐานะนักเตะสัญญาร่วมของงูใหญ่แล้วก็ เวโรที่นา
ถึงแม้ผลงานกับทัพอินเตอร์บางทีก็อาจจะไม่เข้าเป้า เมื่อยิงไปเพียงแต่ 2 ประตูจาก 14 เกม แต่ว่าเขาแปรไปเป็นคนละคน เมื่อได้สวมเสื้อเวโรที่นา ข้างหลังยิงให้ทีมไป 18 ประตูจาก 60 นัดหมาย จนถึงถูก ปาร์มา คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2002
แล้วก็ที่แห่งนี้ก็ทำให้เขาได้แจ้งกำเนิดอย่างเต็มกำลัง เมื่อการจับคู่กับ อาเดรียโน โดยมี ฮิเดโตชิ นาคาตะ คอยปั้นเกม ทำให้เขาทำประตูได้อย่างถล่มทลาย มูตู ซัดไปถึง 22 ประตูจาก 36 เกม พร้อมช่วยให้ปาร์มา ผ่านเข้าไปเล่นในบอล ยูฟ่า คัพ ได้สำเร็จ
ผลงานอันรุนแรงแบบนี้ ทำให้ เชลซี เศรษฐีใหม่ที่พึ่งถูก โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์ไม่คอยช้า ดึงตัวเขามาร่วมทีมทันที ด้วยค่าชดเชย 15.8 ล้านปอนด์ ที่ทำให้เขามีค่าตัวแพงเป็นอันดับ 4 ของนักเตะเชลซีในซัมเมอร์นั้น รองจาก เดเมียน ดัฟฟ์ (17 ล้านปอนด์), เฮอร์นัน เครสโป (16.8 ล้านปอนด์) แล้วก็ โคลด มาเกเลเล (16 ล้านปอนด์)
“สำหรับโรมาเนีย มันเป็นจังหวะที่ดีมากสำหรับบอลของพวกเขา” คอสติน สตูแคน ผู้รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ Gazeta Sporturilor อธิบายกับ The Athletic
“มูตูเซ็นสัญญากับเชลซี แล้วก็ คริสเตียน คิวู เซ็นกับโรมาในอีกสองอาทิตย์ต่อมา บอลโรมาเนียในตอนนั้นดูเหมือนจะมีอนาคตที่ผ่องใส ผู้คนต่างมุ่งมาดกับเด็กรุ่นใหม่แล้วก็ก้าวถัดไป หลังจากเคยไปถึงรอบ 8 ทีมในบอลโลก 1994”
“พรีเมียร์ลีก เป็นลีกยอดนิยม นักเตะโรมาเนียบางบุคคลเคยไปเล่นที่นั่นในสมัย 1990s อย่าง อิลี มองมิเตรสคู, จอร์เจ โปเปสคู, ดินแดน เปเตรสคู แล้วก็ ฟลอริน ราดูซิโออู แต่ว่าในเวลาที่มูตูเซ็นกับเชลซี มันเป็นความ ‘ว้าว ในที่สุดเราก็มีนักเตะดังที่ได้เซ็นสัญญากับทีมร่ำรวยอีกรอบ’ มูตู ถูกมองว่าเป็นนิวฮาจี”
อย่างไรก็ตาม มันกลายเป็นจุดเริ่มแรกของฝันร้าย..
อนาคตที่พังทลาย
การย้ายทีมของมูตู ไม่เพียงแต่สร้างความฮือฮาให้กับวงการบอลโรมาเนีย แต่ว่ามันยังมีผลให้สหายร่วมทีมเชลซีต่างตกตะลึงกับฝีเท้าของเขา เพราะเขาเป็นนักเตะที่บางทีอาจเรียกได้ว่าระดับเวิลด์คลาสชุดแรก ข้างหลังการเทคโอเวอร์ของอาเสี่ยหมี
“การจบสกอร์เขาเยี่ยมมาก ในเวลาที่เล่นสนามเล็กหรือฝึกซ้อมยิง เขายอดเยี่ยมมากมาย เขาเด่นจากการเล่นได้ทั้งคู่เท้าแล้วก็การโหม่ง” นีล ซุลลิแวน อดีตกาลมือกาวสหายร่วมทีมเชลซีย้อนเรื่องในอดีต
“พูดได้ว่าเขาเป็นอีกระดับ เขาเป็นคนนักเตะมีชื่อเสียงแล้วก็โด่งดังมากมาย มันเป็นความตรึงใจแรก คุณคิดว่าเชลซีได้ทำความตกลงที่สุดยอด เขาชอบอยู่ต่อข้างหลังฝึกซ้อมเสร็จเสมอเพื่อฝึกซ้อมจุดลูกโทษที่ทำให้ผมแฮปปี้ที่จะสามารถช่วยเขา”
มูตู ใช้เวลาไม่นานก็ปรับตัวกับบอลอังกฤษได้ เขาเปิดฉากประตูแรกได้ทันทีในนัดแรกที่ลงไปในสนาม ข้างหลังซัดประตูชัยในเกมพบ เลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะยิงตีเสมอ กางล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในอาทิตย์ต่อมา แล้วก็บวกเพิ่มเติม 2 ประตูในนัดหมายเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ทำให้ 3 เกมแรกเขายิงไปถึง 4 ประตู
ทุกอย่างมันกำลังไปได้สวย เขาเปลี่ยนเป็นขวัญใจแฟนบอลที่ทำให้ชื่อของเขาถูกแต่งเป็นเพลงบนอรรธจันทร์ แล้วก็ทำประตูชัยให้ทีมได้ในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน แล้วก็ ลาซิโอ ยิ่งไปกว่านี้เขายังเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ไว ทำให้ห้องแต่งตัวครึกครื้นจากการผลิตบรรยากาศของเขา
แต่ว่าหายนะก็มักมาเยี่ยมเราโดนไม่ทันตั้งตัว เหมือนกันสำหรับมูตู เมื่อจากนั้นเขาได้รับบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆจนถึงผลงานช็อตไปซนๆแล้วก็ยิงไม่ได้ถึง 13 เกมจนถึงตอนปีใหม่ ก่อนจะหลุดไปจากทีมตัวจริงในช่วงท้ายฤดู
แล้วก็การมาถึงของ โชเซ มูรินโญ ในช่วงฤดูกาลต่อมา ก็ทำให้เขาหมดอนาคตอย่างสิ้นเชิง เมื่อมูตู ไม่ได้อยู่ในแนวทางทำทีมของผู้จัดการทีมชาวประเทศโปรตุเกส เขาได้ลงไปในสนามไปเพียงแต่ 2 นัดหมาย แถมยังขัดแย้งกับนายใหญ่ ข้างหลังฝืนคำสั่งไปเล่นทีมชาติในบอลโลก รอบเลือกสรร
อย่างไรก็ตาม ดูท่าเรื่องจะเลวลงไปอีก เมื่อในกันยายน 2004 เชลซี แถลงข่าวสุดช็อกว่า มูตู ใช้ยาเสพติด นั้นก็คือ โคเคน ทำให้เขาถูกไล่ออกจากชมรมทันที กับถูกแบนยาวถึง 7 เดือน
“เราอยากแจกแจงอย่างแจ่มแจ้งว่าเชลซีมีนโยบายต่อต้านสิ่งเสพติดอย่างเด็ดขาด สำหรับเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับหัวข้อนี้ เชลซีมั่นใจว่าชมรมมีความรับผิดชอบต่อสังคม แฟนบอล ผู้เล่น พนักงาน แล้วก็ผู้ถือหุ้นในเรื่องสิ่งเสพติดมากยิ่งกว่าจะมาคิดเรื่องทางด้านการเงินของบริษัท” คำอธิบายของเชลซีกำหนด
ในตอนนั้นเขาถูกก่นดุด่าจากสังคม แล้วก็ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกขี้ยา ที่เอาความสามารถพิเศษของตัวเองไปแลกเปลี่ยนกับความสำราญชั่วครั้งคราวอย่างสิ่งเสพติด
ทว่า มันมีอะไรมากยิ่งกว่านั้น..
บ่าที่หนักอึ้ง
ถึงแม้ในเวลาที่ มูตู ย้ายมาร่วมทัพเชลซี จะมีผลให้ผู้คนชาวโรมาเนียกล่าวถึงแต่ว่าเขา ทว่าในอีกด้านหนึ่ง เขาก็กลายเป็นข่าวสารในหน้ารื่นเริงของหนังสือพิมพ์ภูมิลำเนา ข้างหลังพบเจอกับชีวิตการสมรสที่ล้มเหลวกับ อเล็กซานดรา ดินู ดาราหนังแล้วก็โฆษกมีชื่อเสียงของโรมาเนีย
เขามาถึงลอนดอนขณะที่กำลังพูดจาประเด็นการหย่ากับภรรยาในตอนนั้น ที่ทำให้เขาเริ่มต้นชีวิตในอังกฤษด้วยความเปล่าเปลี่ยว โดยมีเพียง จิโอวานี แล้วก็ วิคเตอร์ สองพี่น้องเบกาลี ที่เป็นเอเยนต์คอยอยู่เป็นเพื่อนแค่นั้น
Leave a Reply